Friday, August 31, 2012

ตะลุยมาดากัสการ์ภาค2..ตอน.. ตามหาต้นเบาบับยักษ์


สวัสดีครับเพื่อนๆชาว Mycacti ทุกท่าน หลังจากที่ผม ในนามนิตยสาร Nature Explorer ได้เปิดกระทู้เพื่อนำเพื่อนๆ สมาชิกไปตะลุยเกาะมหัศจรรย์มาดากัสการ์ทางภาคใต้ เพื่อไปชมบรรดาพรรณไม้อวบน้ำแปลกๆของที่นั่นไปแล้วนั้น มาในคราวนี้ผมจะขอพาเพื่อนๆไปเยือนดินแดนทางฝั่งตะวันตกของเกาะ โดยมีจุดหมายปลายทางเป็นสถานที่พิเศษสุดสองแห่งซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก นั่นคือการไปตามหาต้น Baobab ยักษ์ในตำนาน ที่มีขนาดสูงใหญ่ที่สุดในโลก ณ ถนนแห่งต้นเบาบับ และหลังจากนั้นผมนำไปสัมผัสแหล่งมรดกโลก ณ เทือกเขาหิน Grand Tsingy แห่ง Bemaraha

ถ้าอยากรู้ว่า การผจญภัยครั้งนี้ผมได้เจอ Succulent หรือพรรณไม้น่าสนใจ ชนิดใดบ้าง เชิญเพื่อนๆ ติดตามชมได้ ณ บัดนี้
                                                      โดย Nature Explorer [5 ต.ค. 2548 , 18:27:56 น.] 

มีเพื่อนๆหลายคนอาจจะยังเข้าใจผิด คิดว่าประเทศมาดากัสการ์  เป็นประเทศบ้านป่าเมืองเถื่อน หรือไม่ก็ยากจนข้นแค้น เหมือนอย่างประเทศในทวีปแอฟริกาหลายๆประเทศ แต่ที่จริงการไปเที่ยวมาดากัสการ์ไม่ได้ลำบากลำบนอย่างที่คิด ในเมืองหลวง Antananarivo หรือที่เรียกสั้นๆว่า TANA นั้นถ้าคุณกระเป๋าหนักพอ คุณก็สามารถเข้าพักในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว มาตรฐานยุโรปได้เลย อาหารการกินก็เลิศหรูไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคนชอบอาหารทะเลเช่นกุ้งมังกรตัวโตๆ ราคากลับถูกจนตกใจ

สนามบินของระดับอินเตอร์ของมาดากัสการ์ ด้านหน้ามีต้นหางจระเข้กับยูโฟร์เบียปลูกอยู่ เป็นชนิดที่ยังไม่มีในบ้านเรา

 ในภาพผมอยู่บนระเบียงโรงแรมที่เราพักที่เมือง Tana ก่อนจะขึ้นเครื่องบินต่อไปยังเมือง Morondava ที่อยู่ชายฝั่งตะวันตก เพื่อเริ่มการผจญภัยครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตอีกครั้ง เบื้องหลังจะเห็นวิวของเมืองที่ตั้งอยู่ตามหุบเขา แลเห็นพระราชวังเก่าอยู่ริบๆ ที่นี่อากาศค่อนข้างเย็นสบายเหมือนเชียงใหม่

โดย Nature Explorer [5 ต.ค. 2548 , 18:31:20 น.] 

 เพียงหนึ่งชั่วโมงจากเมืองหลวง คณะของเราก็มาถึง มูรุนดาฟ 
เมืองตากอากาศที่มีชาดหาดขาวสะอาด

เพื่อนๆครับ...ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นที่บนป้ายต้อนรับหน้ารีสอร์ตจะมีรูปวาดเจ้าต้นเบาบับ ต้นไม้ที่นำเงินตราจากนักท่องเที่ยวมาให้ชุมชนแห่งนี้ปีละเป็นหลายสิบล้าน



ยานพาหนะที่พวกเราต้องใช้ในการเดินทางคือเจ้านี่...รถยูนิม็อก (Unimoc) คันโย่งๆ สีสด แลเห็นแต่ไกล 

ที่ต้องเป็นเจ้านี่เพราะมันเป็นรถ 4WD 



ก็เพื่อนๆ ลองดูถนนที่นี่เสียก่อน..ไม่ต้องนึกเลยว่าหน้าฝนจะเป็นยังไง
นี่คือพาหนะหลักนอกเหนือจากการเดินเท้าที่ชาวมาลากาซี่ใช้ในการเดินทางแถบนี้...
เกวียนที่ใช้วัวลาก 

ช่วงแวะหมู่บ้านเล็กๆ ซื้อน้ำดื่มกิน ผมเจอเจ้านี่ปลูกอยู่หน้าบ้าน เช็คดูได้ความว่ามันน่าจะเป็น ต้นหางนกยูงโขด (Delonix foribunda) จัดเป็นหนึ่งในไม้โขดหรือ Fat Plant ที่หาชมได้ยาก เพื่อนหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าต้นหางนกยูง(D.regia) ที่เป็นสัญลักษณ์ของธรรมศาสตร์นั่น ที่แท้ก็มีถิ่นกำเนิดที่มาดากัสการ์นี่ด้วย




 ช่วงระหว่างหยุดรถลงไปทำธุระส่วนตัวกันนั้น ผมก็จะไม่เสียเวลาปล่าว..สายตาก็คอยสอดส่องว่าจะเจอไม้ต้นเด็ดอะไรบ้าง...และแล้วก็เจอเนี่เข้าให้ Adenia perrieri มันคือไม้โขดที่ผมอยากเห็นตัวจริงมานาน เพราะนอกจากโคนต้นมันจะขึ้นเป็นลำอ้วนๆจากพื้นดินแล้ว ส่วนเถาที่เลื้อยพันไปตามพุ่มไม้ก็จะมีใบรูปร่างเหมือนเกล็ดหิมะอย่างนี้

 คณะของเรามุ่งหน้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงก้องโลก นั่นก็คือ ถนนแห่งต้นเบาบับ (Avenue de Baobab) ในช่วงฤดูแล้งของทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวฝรั่งเศสที่เคยเป็นเจ้าอาณานิคมของที่นี่มาก่อน กับชาวญี่ปุ่นที่รักธรรมชาติ ต่างก็มุ่งหน้ามายังเมืองนี้ เพื่อที่จะมาสัมผัสภูมิทัศน์แปลกตา และรอเฝ้าชมอาทิตย์อัสดงบนถนนแห่งต้นไม้ยักษ์
เพียงไม่นานนัก..หลังจากนั่งรถโยกเยกมาได้ราวสองชั่วโมง เราก็เริ่มเห็นเจ้าต้นเบาบับที่อยากมาดู...ว่าแต่ต้นมันยังเล็กจัง..แต่ด้วยความเห่อก็ขอเก็บภาพคู่กันไว้ก่อน

จากจำนวนเบาบับ 6 ชนิด แห่งเกาะมาดากัสการ์นั้น ต้นเบาบับที่ขึ้นอยู่ตามริมถนนเส้นนี้จะเป็นชนิด Adansonia grandidieri ซึ่งเป็นชนิดที่มีขนาดเมือโตเต็มที่สูงใหญ่ที่สุดในโลก..แน่นอนว่าผมมาที่นี่ก็เพื่อต้องการมาชมเจ้าต้นที่ว่านั้น..ตอนนี้เราก็เริ่มเจอต้นที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ 
 แล้วพวกเราก็มาถึงถนนช่วงนึง ที่ข้างๆเป็นบึงน้ำ มีผักตบชวาออกดอกอยู่เต็มไปหมด เบื้องหลังแลเห็นเจ้ายักษ์ใหญ่ยืนอาบแสงสีทอง ดูสง่างามจับใจ
พี่ป้องหิ้วมาฝากผมสักต้นสิครับ อยากได้สัก 2 - 3 ต้นครับ อิอิ
โดย NuT [5 ต.ค. 2548 , 19:18:44 น.] 

ข้อความ 14

Nut เอ๋ย..จะให้บอกไงดี..เอาเป็นว่าพี่รู้มาว่าตอนนี้มีคนสั่งเจ้าต้นนี้เข้ามาได้แล้ว คาดว่ามินานเกินรออาจหลุดมาแบ่งไห้นักสะสมในบ้านเราได้เล่นกันบ้าง...แต่ถ้าจะเอาต้นที่พี่ได้มา(แบ่งเพื่อนๆไปเกลี้ยงเสียแล้วน้องเอ๋ย..) คงมีแค่สองวิธี คือต้องรอมันออกดอกแล้วติดเมล็ด แต่แค่นั้นยังไม่พอ มันดันต้องใช้ต้นต่างเพศ เพราะไม้สกุลAdenia เป็นไม้ที่มีดอกแยกเพศเป็นต้นตัวผู้/เมีย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่มีๆกันอยู่ 4-5 ต้นในเมืองไทยตอนนี้ มันเพศไหน!! ส่วนอีกวิธี ถ้าไม่มายว่าโคนต้นมันจะสร้างโขดเล็กกว่าไม้เพาะเมล็ด พี่ก็ยินดีตัดชำแบ่งกันเล่นได้ครับผม
โดย ป้อง [5 ต.ค. 2548 , 19:42:06 น.]

ข้อความ 17
 อยากไปบ้างจังงึงึ
adenia นี้ดอกแยกเพศด้วยหรอพึ่งรู้น่ะเนี้ยแล้วที่บ้านจะหาตัวผสมได้ไหมหว่า
โดย Hana kung [5 ต.ค. 2548 , 20:06:32 น.] 

ข้อความ 18
ติดตามกระทู้ที่พี่ไปมาดากัสการ์แล้ว อยากจะบอกว่าสุดยอด ชอบมากครับ
โดย NuT [5 ต.ค. 2548 , 21:03:01 น.] 

ข้อความ 19
ดูหน้าแรกจบก็สุดยอดแล้ว ลุ้นจริงๆว่าจะเจออะไรต่อในหน้าสอง
โดย Leonet [5 ต.ค. 2548 , 22:03:38 น.] 

ข้อความ 20
และแล้วหน้าสองก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ภาพสวยจริงๆ ต้องsaveไว้ในคอมเกือบทุกรูปเลย
โดย Leonet [5 ต.ค. 2548 , 22:08:16 น.]

น่าสนใจเช่นเคย
มารอดูเทพเจ้าเบาบับยักษ์ครับ
โดย 0bnyne O [5 ต.ค. 2548 , 22:27:42 น.] 

ข้อความ 22
ชาตินี่คงไม่มีโอกาสได้เห็นของจริงแน่
ขอบคุณครับที่เอารูปสวย ๆ มาฝาก
โดย som [5 ต.ค. 2548 , 22:36:30 น.] 

ข้อความ 23
พี่ป้อง ! เห็นเค้าว่าชนพื้นเมืองเค้าแซะเปลือกของเบาบับไปทำหลังคาบ้านหนิ ได้ไปนอนในบ้านอย่างงั้นมารึเปล่า? แล้วเค้าบอกว่าลูกของมันกินได้ ได้ลองมั้ย?
โดย caudexhunter [5 ต.ค. 2548 , 22:58:26 น.] 


ครับคุณ Caudexhunter บ้านหรือกระต๊อบชาวมาลากาซี่ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารหน่อย เขาจะสร้างด้วยวัสดุที่หาได้ง่ายๆแถวนั้น เช่นผนังสร้างจากกิ่งไม้ฉาบด้วยดินโคลนผสมขี้วัว (คงเหม็นแย่!) ส่วนหลังคาถ้าไม้ใช้พวกหญ้าฝาง แล้วมีต้นเบาบับขึ้นอยู่แถวนั้นเขาก็จะถากเปลือกเป็นแผ่นๆเอาไปมุงหลังคา ...ผมก็ว่าจะลองนอนในกระท่อมชาวมาลากาซี่อยู่หรอก เพราะไปทำสารคดีที่ไหนก็มักจะสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนแบบใกล้ชิด อย่างครั้งหนึ่งเคยไปหมู่บ้านมนุษย์กินคนที่เกาะบอร์เนียว ที่บ้านเขาสร้างแบบเรือนยกพื้นยาวติดกัน เรียกว่า long-house อยู่กันหลายๆครอบครัว ก็ลองเสี่ยงพักที่นั่นหนึ่งคืน...เดชะบุญว่าพวกเขาคงยังอิ่มกันอยู่ (จากแขกชุดก่อน!) เลยรอดมาเล่าเรื่องมาดากัสการ์ให้เพื่อนฟังกัน ไม่ใช่อะไรหรอก..ถ้าไม่มีท่านปองพล อดิเรกสาร มาด้วยผมก็คง home-stay แล้วหล่ะ ส่วนลูกเบาบับนั้นได้แต่ลองเก็บ ยังไม่ได้ลองกิน เห็นท่านกงสุลไทย ที่มาต้อนรับเราท่านเล่าให้ฟังว่าเนื้อมันไม่อร่อย เปรี้ยวๆแล้วก็คล้ายมะขวิดแต่เนื้อแห้งกว่า อันที่จริงเบาบับเป็นไม้ในวงศ์เดียวกับทุเรียน ในรูปนี้คือลูกเบาบับ ของจริงโตประมาณส้มเฉ้งโตๆครับ

โดย Nature Explorer [6 ต.ค. 2548 , 16:55:53 น.]




ข้อความ 24
เห็นแล้วก้กิเลสขึ้นอีกแล้น
โดย seraph [6 ต.ค. 2548 , 08:25:20 น.]

ข้อความ 25
ชอบมากๆครับ
จากที่ไม่ค่อยสนใจต้นชนิดนี้ เดี๋ยวนี้ผมเริ่มลังเลแล้วคร๊าบ
โดย Toon [6 ต.ค. 2548 , 08:59:10 น.]


 เดินทางกันต่อดีกว่าครับ...ถึงไหนกันแล้วหละ..

.อ้อ เรามาจนถึงจุดที่เป็นดงเบาบับขึ้นอยู่มากที่สุดเอาตอนเย็นย่ำ ก็หมายถึงไฮไลท์ที่เฝ้าคอยกำลังจะมาถึงแล้ว  ตอนนี้ 5 โมงเย็นของที่นั่น(เวลาเขาช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง) แสงสีทองสาดจับต้นเบาบับ งามจนลืมไม่ลง
 
เราอ้อยอิ่งกันอยู่จน 6 โมงเย็นและแล้วแสงสีทองก็ค่อยๆ หรี่ลงจนกลายเป็นสีส้มอมชมพูดูสวยซึ้งไปอีกแบบ



จนกระทั่งในที่สุด...อาทิตย์ดวงโตก็ค่อยๆ คลายความร้อนแรง และดับแสงลงจรดขอบฟ้า เบื้องหน้ามนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เดินทางข้ามโลกมาแสนไกล เพื่อมาชมช่วงเวลาสำคัญนี้ด้วยกัน

โดย Nature Explorer [6 ต.ค. 2548 , 17:13:49 น.]





 เพื่อนๆ หลายคนอาจทวงถามแล้วตอนนี้ว่า...แล้วไหนกันต้นเบาบับยักษ์ที่ใหญ่สุดในโลก ?...

ยังก่อน...ของดีต้องเอาไว้ชิมทีหลัง..ไม่รู้เพื่อนๆเป็นแบบผมหรือเปล่า..ที่เวลากินก๋วยเตี๋ยวจะกินเส้นก่อนแล้วค่อยกินหมูทีหลัง!!

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจุดหมายปลายทางต่อไปจะไม่สำคัญ เพราะผมกำลังจะเดินทางไปยังสถานที่วิเศษสุดอีกแห่งของที่นี่ นั่นคือป่าหินแห่ง Tsingy Bemaraha ซึ่งได้รัปการประกาศเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ ทว่ากว่าเราจะไปถึงก็ต้องเจออุปสรรคกันพอดู อย่างที่เห็นในภาพ..รถบรรทุกล้อหลุดขวางทางอยู่กลางสะพาน จนเราต้องเสี่ยงขับปีนออกข้างๆ

 โดย Nature Explorer [6 ต.ค. 2548 , 17:33:17 น.] 

ถนนสายเบาบับ เป็นถนนที่เท่ที่สุดแล้ว
โดย 0bnyne O [6 ต.ค. 2548 , 17:32:25 น.]

ใช่จริงๆคุณ Obnyne O ถนนเบาบับเป็นเหมือนภาพในฝันของคนรัก Fat Plant เลยครับ..ว่าแต่ที่ Australia ที่คุณไปเรียนอยู่ตอนนี้มีถนนต้นไม้แบบนี้บ้างมั้ย เพราะเท่าที่ทราบที่นั่นก็มีเบาบับอยู่ชนิดนึงนี่ครับ แล้วก็ยังมีบรรดา Bottle Tree ที่ลำต้นอ้วนกลมไม่แพ้เจ้าเบาบับนี่เหมือนกัน ถ้าคุณได้มีโอกาสไปชมมา ก็เอาภาพมาแบ่งเพื่อนๆชมบ้างนะครับ
โดย Nature Explorer [6 ต.ค. 2548 , 17:43:15 น. 

เออ...ได้แต่เดินทาง หิวบ้างดีกว่า นี่กุ้งแม่น้ำมาดากัสการ์ ย่างบาบีคิว ร้อนๆ จิ้มซ๊อสพริก...หย่อยอย่าบอกใคร...แต่ผมดันแพ้กุ้ง..ฮ่า..ฮ่า..เลยเสร็จพรรคพวกในคณะหมดทั้ง 15 ไม้ ผมเหรอ ก็ได้แต่กินเนื้อสเต็กเปรมเลย...เพื่อนนั่งชมกระทู้น้ำลายหยดติ๋งๆ เลยสิท่า!!

โดย Nature Explorer [6 ต.ค. 2548 , 17:50:49 น.]
 เห็นรูปเเล้วทำให้อยากไปมาดากัสการ์มากๆเลยค่ะ

เพื่อนๆ ไปกันเถอะ อิอิ อยากเห็นของจริงเเล้ว

เเหม กำลังหิวซะด้วย กุ้งนี่ดูตัวโตน่ากินจังนะคะ 

โดย Dorstenia Lover [6 ต.ค. 2548 , 19:38:12 น.]

ข้อความ 35

wow กุ้งน่ากินจัง
แล้วอีกอย่างผมจะลงเบาบับเป็นถนนไว้ที่บุรีรัมย์ด้วยเผื่อว่าเหลนผมจะได้เห็นกะเขาบ้างบ้าง หุหุหุ

โดย Leonet [6 ต.ค. 2548 , 21:17:17 น.]

ข้อความ 36

เดินทางแบบ VIP เลยน๊ะครับ
Benz รุ่นที่ใช้นี่เมื่อไหร่จะมีขายในเมืองไทยเนี่ย

โดย Zen&Torn [6 ต.ค. 2548 , 23:49:58 น.]

ข้อความ 37

อยากไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจาง หิวด้วยยๆๆๆๆๆๆๆๆ

โดย seraph [7 ต.ค. 2548 , 00:18:11 น.

 ข้อความ 38

อยากไปเที่ยวบ้างจัง ^_^

อยากไปเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกับตาตัวเองสักครั้ง

โดย ริม [7 ต.ค. 2548 , 04:32:34 น.

ข้อความ 39

อืม...ได้ข่าวว่าเปรมกับเนื้อสเต็กสุดๆเลยนี่ พี่ป้อง?

โดย caudexhunter [7 ต.ค. 2548 , 04:33:39 น.]

ข้อความ 40

ครับคุณ Caudexhunter ผมเปรมกับเนื้อสเต๊กจนเกือบไม่ได้กลับเมืองไทยเสียแล้ว...!! ก็ดันไปลองกินสเต๊กดิบเลยเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย เป็นไข้ และอาเจียนจนท่านกงสุลและผู้ใหญ่ที่ไปในคณะต้องไปตามหมอมาฉีดยาให้ที่รีสอร์ตตอนวันจะกลับ มันเป็นประสบการณ์ที่นักเดินทางอย่างพวกเราต้องจดจำจริงๆ

ว่าแต่คุณ Caudexhunter เองก็เถอะ คุณก็ชอบลองกินอะไรแปลกๆ ไม่ใช่หรือ อย่างเช่นซาละเปาไง!!

โดย Nature Explorer [7 ต.ค. 2548 , 10:31:58 น.]

 มาทัวร์กันต่อดีกว่า...หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันเลิศรสที่เมืองซีริบินแล้ว คณะของเราก็เดินทามุ่งหน้าขึ้นไปยังด้านเหนือตามถนนลูกรังแดงฝุ่นคลุ้ง แต่ก็ยังมีภาพสวยๆแบบนี้ให้ชมตลอด

โดย Nature Explorer [7 ต.ค. 2548 , 10:41:18 น.] 
เราใช้เวลากว่าครึ้งวัน จึงมาถึงริมแม่น้ำใหญ่นามว่า Manumbolo ที่เป็นปราการขวางกั้นเทือกเขาหินปูนยอดแหลมๆที่เรียกว่า ซิงงี (Tsingy) แห่งเบมาราห์ โดยเราต้องแวะพักในแคมป์พักริมแม่น้ำ ก่อนจะข้ามไปผจญภัยในซิงงีวันรุ่งขึ้น

บรรยากาศที่ Coco Camp แม้จะนอนเต๊นท์ แต่อาหารคำเสริฟไวน์ กับเมนูปลาแม่น้ำจานเด็ดที่ปรุงโดยเชฟเจ้าของแคมป์ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส

โดย Nature Explorer [7 ต.ค. 2548 , 10:54:09 น.] 





ที่บอกว่าปลาอร่อยเพราะมันเพิ่งจับมาสดๆจากริมแม่น้ำนั่นเอง คนชอบเลี้ยงปลาแปลกๆ อย่างคุณObnyne O คงจะสนใจปลาในแม่น้ำอันห่างไกลแบบนี้ เพราะอาจเป็นชนิดใหม่ๆที่ยังไม่มีใครรู้จัก 

วันนี้ผมจะพาไปปีนซิงงีเล็ก (Petit Tsigy) กันก่อน เพื่อฝึกซ้อมฝีมือก่อนจะไปปีนซิงงีใหญ่ (Grand Tsingy) ในวันรุ่งขึ้น เห็นในภาพแล้วหลายคนอาจจะหวาดเสียวแทนพวกเรา โดยเฉพาะท่านปองพล ที่อายุอาวุโสกว่าใครๆในคณะ แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าท่านปีนหินแหลมๆได้คล่องแคล่วจนน่าแปลกใจ ถ้าคิดแบบติดตลกก็ต้องว่านักการเมืองชั้นเซียนระดับท่าน ปีนป่ายอุปสรรคมาอย่างโขกโขนแล้ว เรื่องแค่นี้ขี้ประติ๋ว!! 


 แต่นี่สินักปีนตัวจริง เจ้า Sifaka Lemur สัตว์น่ารักญาติห่างๆ กับมนุษย์ที่มีอยู่ราว 50 สายพันธุ์เฉพาะบนเกาะมาดากัสการ์แห่งนี้

ดูกันชัดๆ น่ากอดชมัด 


นอกจาก Succulent จำพวกยูโฟร์เบีย และกุหลาบหินสกุล Kalanchoe อีกสองสามตัวที่เจอแถวๆนั้นแล้ว ผมยังได้เจอเฟินชายผ้าสีดาตัวหายากที่สุดในวงการคนเล่นเฟินทั่วโลก นั่นคือ Platycerium quadridichotomum

 
ในช่วงฤดูแล้งเจ้าเฟินชนิดนี้จะพักตัว ใบแห้งกอดคล้ายกับตายซาก แต่พอได้รับฝนก็จะกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ เหมือนกับเจ้าชายผ้าสีดาปีกผีเสื้อ (P. wallichii) ของบ้านเรา

บอกไว้เผื่อใครในกระทู้จะชอบสะสมเฟินชายผ้าสีดาด้วยว่า ถ้าสนใจเจ้าต้นนี้ผมรู้จักเพื่อนที่มีเจ้านี่อยู่ใน collection หลายต้นครับ

 ที่นี่ผมเจอไม้ทนแล้งที่จัดเป็น Fat Plant ที่หายากและน่าสนใจมาก มันคือไม้ในสกุล Comiphora ที่ผมไม่รู้ชนิด บางต้นรูปทรงเป็นบอนไซรธรรมชาติ ดูน่าทึ่งที่มันขึ้นเกาะตามซอกหินร้อนแล้งเข่นนั้นได้



ดูกันใกล้ๆ เปลือกของเขาจะเหมือนกระดาษที่ล่อนเป็นแผ่น ไม้สกุลนี้ในแอฟริกาจะพบหลายชนิด แต่ถ้าข้ามไปฝากอเมริกาจะเป็นอีกสกุลคือ Bursera ซึ่งอยู่ในวงศ์ Burseraceae เช่นเดียวกัน พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นไม้โขด ในบ้านเราตอนนี้ก็มีหลายร้านสั่งเข้ามาเผยแพร่ อย่างร้านคุณมารุตเคยเห็นเป็น Seedling ส่วนร้านคุณเดียว กับร้าน EXOTIC CONER ที่อยู่เลยร้านคุณปราโมทย์ไปหน่อย เห็นมีต้นใหญ่ที่ขึ้นฟอร์มไม้โขดบอนไซแล้วถ้าเพื่อนๆท่านใดสนใจก็ลองไปถามไถ่ดูนะครับ 





 ท่านปองพลกำลังยืนชี้เจ้าชายผ้าหายากที่เราเจอ ส่วนผมยืนเกาะต้น Pachypodium ชนิดนึงอยู่แต่จะป็นต้นไหน...โปรดติดตามตอนต่อไป


สุดยอดเลยครับพี่ป้อง! เจ้าชายผ้าสีดาPlatycerium quadridichotomum นี่มันถือเป็นสุดยอดของสุดยอดแห่งชายผ้าสีดาในโลกนี้ การได้เห็นมันในธรรมชาติเนี่ย ถ้าเล่าให้นักเล่นSucculent ฟังคงจะไม่ค่อยรู้สึกตกใจเท่าไหร่ แต่ผมเชื่อว่าถ้าไปเล่าให้นักเล่นเฟินฟังล่ะก็ คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าชีวิตนี้คุ้มแล้วที่ได้ไปเห็นมันในธรรมชาติ
ว่าแต่ พี่ได้ไปเห็นอีก3ชนิดที่เหลือหรือเปล่าครับ เพราะเห็นว่ามาดากัสการ์มีอยู่4ชนิด ก็คือ 1.เจ้าP.quadridichotomum ที่พี่ลงรูปให้ดู 2.P.alcicorne ที่พบทางตอนใต้ของเกาะ 3. P.ellisii ที่พบบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกทางตอนกลางของเกาะ และ4.P.madagascariense ที่เป็นอีกหนึ่งตัวสุดยอดของโลกซึ่งหัวเป็นรอนหยิกๆมีลักษณะคล้ายกับP.ridleyiหรือที่รู้จักกันในนามชายผ้าสีดาเขากวางตั้งของบ้านเรา
ถ้าได้ไปเห็นครบทั้ง4ชนิดล่ะก็ นักเล่นเฟินทั่วโลกคงต้องมาคาราวะ(แต่แค่ได้เห็นP.quadridichotomumตัวเดียวผมก็ขอคาระวะแล้ว)

โดย caudexhunter [7 ต.ค. 2548 , 23:40:30 น.] 


ครับ..คุณ Caudexhunter ผมได้เจอทั้ง 4 ขนิดเลย..แต่..เจอในธรรมชาติแค่สองชนิดคือเจ้า Platy. quadridichotomum ที่ซิงงี่กับเจ้า Platy. alcicorne ในป่าที่อุทยานแห่งชาติ Andasibe ใกล้ๆกับเมืองทานา ส่วนอีกสองชนิดเจอในตลาดขายต้นไม้ที่นั่นครับ

ที่จริงผมก็ชอบเจ้าพวกเฟินชายผ้าสีดานี่เช่นกัน ที่บ้านก็ปลูกเล่นไว้บ้างเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่ยังไม่ค่อยมีในบ้านเรา เวลามีเพื่อนที่ไปนอกก็ให้เขาช่วยหามาให้ อย่างในภาพนี่เป็นเจ้า Platycerium ellisii จัดเป็นชนิดที่หายากสำหรับวงการนักเล่นเฟินบ้านเรา ชนิดนี้เลี้ยงง่ายในเมืองไทยเพราะมาจากป่าดิบแล้งที่ลุ่มต่ำ ในธรรมชาติพบตั้งแต่บริเวญป่าโกงกางชายฝั่งขึ้นไปจนถึงระดับเชิงเขาแถบตะวันออกของมาดากัสการ์ครับ

โดย Nature Explorer [8 ต.ค. 2548 , 20:18:16 น.] 

ไปขุดพลอยมากันบ้างหรือเปล่าครับ!
มีเยอะนะที่เนี่ย...

โดย Zen&Torn [7 ต.ค. 2548 , 22:02:04 น.]

คุณ Zen&Torn ครับ..พลอยที่นั่นเยอะและถูกก็จริง แต่นักท่องเที่ยวอย่างพวกเราไม่มีสิทธิ์จะไปซื้อหาพลอยดิบออกมาได้เลยครับ ถ้าเป็นสมัยก่อนไม่แน่แต่เดี๋ยวนี้เค้ามีการให้สัมประทานคนที่ทำธุระกิจค้าพลอยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว มีการจ่ายภาษีตามมูลค่าพลอยดิบที่นำออกไปอย่างถูกต้อง

นักท่องเที่ยวจะซื้อได้ก็แต่ที่เขาเจียรไนอยู่ในรูปเครื่องประดับแล้วเท่านั้นครับ..เรื่องแอบซ่อนออกไปหน่ะเหรอ..ใช่อาจยังมีคนใจกล้าทำบ้าง..แต่เท่าที่ทราบจากพ่อค้าพลอยคนไทยที่นั่งเครื่องบินไปเที่ยวเดียวกันเขาบอกว่ามันไม่คุ้ม หากถูกจับได้โดนหนักแถมติดคุกมาดา..คิดดูแล้วกันว่าจะแย่แค่ไหน

โดย Nature Explorer [8 ต.ค. 2548 , 20:31:48 น.] 


 ครับพาทัวร์กันต่อดีกว่า...เมื่อกี้ผมพูดถึงเจ้าต้น Pachypodium บนซิงงี ก็อยากจะบอกว่าพวกบรรดาผู้เชี่-ยวชาญทั้งหลายเขาสงสัยว่าเจ้านี่จะเป็น variety ใหม่ของ P.lemerei บ้างก็ว่าน่าจะเป็นตัวNEW อย่างตอนที่ Mr. Chuck Hanson แห่ง Arid Land ที่เคยโด่งดังด้าน Pachy ของโลกมาเยือนเมืองไทย เราได้เจอกันและคุยกันถึงเจ้าต้นที่ผมไปเจอนี่ แกตื่นเต้นเป็นการใหญ่ เพราะแกบอกว่าแกเคยได้มันมาจากแหล่งนี้ แต่มันกลับไม่ใช่เจ้า Pachy. ambongense ที่ขึ้นอยู่อีกฝากของเทือกซิงงีแห่งเบมาราห์นี้

 
ต้นที่ยังวัยรุ่นสูงขนาดคนยืนยังไม่แตกกิ่ง เสียดายตอนที่ไปมันยังไม่ใช่ฤดูกาลออกดอกของเจ้านี่ เลยยังไม่เห็นว่ามันเป็นเช่นไร

 ในวันรุ่งขึ้น คณะเราออกเดินทางข้ามแม่น้ำมานัมโบโลโดยเอารถคันเท่ของเราข้ามฝากไปด้วยแพยนต์ขนาดใหญ่ จากนั้นก็ขับฝ่าภูมิประเทศที่เป็นทุ่งสะวันนาแห้งแล้ง สลับกับป่าโปร่งเพื่อไปยังจุดที่เรียกว่า Grand Tsingy ที่เราต้องปีนป่ายไปตามหินแหลมๆ บางครั้งก็ต้องมุดเข้าไปใต้ถ้ำ..มันส์...สุดๆไปเลย..กว่าจะขึ้นไปถึงจุดชมวิวด้านบนได้ก็เล่นเอาเหนื่อยล้าไปตามๆกัน


ผมเองออกจะเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในคณะสำรวจครั้งนี้ เพราะทีมงานจะต้องคอยหยุดตามผม ที่มักจะเรียกดูต้นไม้แปลกๆ ที่เจอตามเส้นทางตลอด...

และแล้วในช่วงขาเดินกลับลงไปทางอีกด้านของเทือกเขา ผมก็ได้มาเจอกับเจ้านี่เข้า มันเป็นหนึ่งในบรรดา Fat Plant ในฝันที่ผมอยากเห็นเมื่อมาที่มาดากัสการ์มากที่สุดต้นนึง มันคือ Cyphostemma ที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นชนิดไหน แต่จะยังไงผมก็ขอทำอย่างในภาพซักครั้งในชีวิต...กอด...เพราะไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้กลับไปเยือนที่นั่นอีกหรือไม่


รูปนี้ผมต้องขอขอบคุณท่านปองพล อดิเรกสารไว้ณ ที่นี้ด้วย เพราะท่านกรุณาแอบถ่านภาพผมเอาไว้โดยไม่บอก..ตอนกลับมาเมืองไทยท่านค่อยให้เลขาส่งมาเซอร์ไพส์ แถมยังแซวผมไว้ตอนที่ป่วยในวันกลับว่า "คุณป้องป่วย คงเพราะไปโดนพิษตอนจูบต้นไม้ที่ซิงงี.."

การแรมทางครั้งนี้ยังไม่จบ ..เพื่อนๆโปรดติดตามตอนต่อไป..เรากำลังจะไปชมต้นเบาบับยักษ์ที่มีขนาดสูงใหญ่ที่สุดในโลกด้วยกันครับ 
น่าเอากลับมาทำหมอนข้างนะพี่ป้อง ฝันดีทุกคืนแน่เลย..

โดย caudexhunter [9 ต.ค. 2548 , 04:03:46 น.]
ข้อความ 62

หมอนไม้เหมือนในหนังกำลังภายในสินะ

โดย 0bnyne O [9 ต.ค. 2548 , 17:01:32 น.]
ข้อความ 63

อาจจะเป็นฝันมรณะก็ได้นะคุณโคเด็กฯ เพราะเคยอ่านในตำราไม้โขดของฝรั่งเขาบอกว่าไม้สกุล Cyphostemma หรือเจ้า Desert Grape ไม้โขดที่เราปลูกๆเล่นกันอยู่นั้น ยางของมันเป็นพิษ ชาวป่าในแอฟริกาเขาใช้เป็นส่วนประกอบทำยาพิษไว้ทาลูกธนูล่าสัต-ว์ด้วย...กึยยย

จะตัดจะแต่งต้นไม้โขดสุดรักของคุณก็ต้องระมัดระวังศึกษาให้ดีด้วย..เดี๋ยวจะตกเป็นข่าวต้องตายเพราะไม้โขด..หึ..หึ..

โดย ป้อง [9 ต.ค. 2548 , 17:19:59 น.]
 มาทัวร์กันต่อดีกว่า...คราวนี้ไปชมเจ้าต้นเบาบับยักษ์สุดยอดตลอดกาลกันเสียที

อ้าว..ต้นเนี้ยเหรอ..ม่ายช่าย..นี่มันก็ต้นใหญ่ แต่ยังไม่ที่สุด เพราะมันแค่แหกคนโอบเองงะ.. ที่ให้ดูก็เพราะเรากำลังขับรถย้อนกลับมายังเมืองมูรุนดาฟ..ดูซิเพื่อนๆจะจำได้ป่าวว่าเคยผ่านภาพเจ้าต้นนี้มาแล้ว

โดย Nature Explorer [9 ต.ค. 2548 , 17:30:54 น.] 
คำถามที่ทุกคนมักจะถามเมื่อเห็นเจ้าต้นไม้ยักษ์เหล่านี้ก็คือ " มันอายุเท่าไหร่กันนะ.."

เคยมีข้อมูลที่นักพฤกษสาสตร์เขาประเมินไว้คร่าวๆซึ่งผมเคยอ่านเจอในตำราเล่มไหนก็จำไม่ได้แล้ว แต่ก็ได้ความว่า 1-10 ปี คือวัยเด็กรูปทรงเหมือนไม้ยืนต้นทั่วไปอย่างดีก็อวบๆหน่อยเหมือนต้นนุ่น 10-50 ปี คือวัยหนุ่ม มีดอกออกผลได้ ต้นเริ่มอวบอ้วนให้เห็นเค้าของเบาบับ 50-100 ปี จึงถึงวัยสง่างามอย่างที่เห็นเป็นภาพโชว์เปิดกระทู้ ส่วนที่อยู่ค้ำฟ้ารอดมาจากภัยธรรมชาติ ภัยมนุษย์ จนอายุเฉียดหัสวรรษนั้น ผมกำลังจะพาไปชมครับ ...ยังไงใครที่ซื้อเจ้าเบาบับเพาะเมล็ดไปเลี้ยงกันก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจว่าชาตินี้ตูข้าคงไม้ได้อยู่ค้ำฟ้าชมเบาบับยักษ์ที่ลงดินไว้หน้าบ้าน เคล็ดลับมีว่าถ้าจะให้อ้วนเร็วก็ปล่อยพอมันสูงเท่าที่พอใจแล้วก็ตัดยอดให้เขาแตกกิ่ง คอยริบ คอยเล็มอยู่เรื่อยๆ ก็จะทำให้ต้นค่อยๆ อ้วนเป็นเบาบับย่อส่วนให้ชื่นชมได้ทันชาตินี้จ้ะ..

แต่ตอนนี้ผมขอพาไปล่องเรือ "กันตามะรัง"ชมป่าชายเลนแถวชายฝั่งช่องแคบโมแซมบิกกันก่อน เพื่อจะเจอปลาซีลาแคนธ์!!

โดย Nature Expkorer [9 ต.ค. 2548 , 17:59:15 น.] 

 เนื่องจากเกาะมาดากัสการ์อยู่ใกล้กับทวีปแอฟริกา โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกาฬทวีป ห่างออกมาแค่ 400 กิโล มีช่องแคบโมแซมบิกกันไว้ ด้วยเหตนี่คนทั่วๆไปจึงอาจจะคิดว่าชาวมาลากาซี่คงเป็นพวกนิโกรแอฟริกัน...ก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ที่จริงไม่ใช่เช่นนั้นทั้งหมด เพราะบรรพบุรุษแรกเริ่มที่อพยพล่องเรือข้ามมหาสมุทรอินเดียขึ้นมาตั้งรกรากบนเกาะแห่งนี้เมื่อ 2000-1500 ปีที่แล้ว แท้จริงคือพวกชนชาติแถบอินโด-โพรีนิเซี่ยน คือเป็นพวกชาวเอเชียเหมือนเรา โดยมีหลักฐานจากวิถีวัฒนธรรม จารีต รวมทั้งรากภาษาท้องถิ่นที่ยังละม้ายคล้ายกันอยู่หลายอย่าง หลังจากนั้นพวกแอฟริกัน กับตะวันออกกลางก็อพยพย้ายถิ่นเข้ามาผสมปนเป ทำให้ชาวมาลากาซี่ส่วนใหญ่มีลักษณะก้ำกึ่ง แต่ก็มีสีผิวดำคล้ายนิโกร มากกว่าชนชาติเอเชีย



ดูเด็กหนุ่มตัวดำปี๋ไปแล้ว มาดูเด็กสาวชาวมาลากาซี่กันบ้าง ที่เห็นทาหน้าขาวๆนั่นไม่ใช่แป้ง "ทะนาฆา" ที่แฟนสาวพม่าของเจ้าสุ่ย (เด็กผู้ช่วยร้านคุณสมภพ) ชอบทาหรอกนะ แต่นี่เป็น tradition พิเศษเฉพาะตัวของที่นั่น ซึ่งแต่ละเผ่าก็จะมีรูปแบบของลวดลายการทาหน้า (เฉพาะผู้หญิง) แตกต่างกันไป จะสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่นั่นขอบเทินของไว้บนหัว..นัยว่าคงจะคอแข็งไม่เบา.. 
 เอาหล่ะ...ถึงตอนสำคัญเสียที..นีไงขับรถมาเกือบถึงแล้ว..เจ้าต้นเบาบับยักษ์.แลเห็นยอดเค้าอยู่ลิบๆในดงไม้ ท่าทางจะใหญ่น่าดู..ไกลไปใช่มั้ยหล่ะ..รอเดี๋ยวนะ


 นี่พามายืนอยู่ใต้ต้นเลยป็นไง ..เอ้า บ่นอีกว่าดูอย่าวงี้ไม่ชอบ..เดี๋ยวนะ
 อยากจะบอกเพื่อนๆว่าเดินหามุมถ่ายต้นชัดๆ ได้ยากมาก เพราะต้นไม้รอบๆ มันรกไปหมด รูปนี้ก็ไม่ใช่ฝีมือทีมงานผมหรอก แต่ไปยืมภาพจากหนังสือของคุณ กอร์ดอน โรว์เล่ย์ที่ถ่ายต้นเดียวกันนี้เอาไว้ก่อนที่พุ่มไม้ใหญ่ข้างๆมันจะขึ้นบังรกไปหมด

ต้นไม้เทพเจ้าต้นนี้เป็นที่นับถือของผู้คนในท้องถิ่นมาก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "Holy Baobab" คาดกันว่าเขามีอายุไม่ต่ำกว่า 1000 ปี มีความสูงราวๆ 40 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางต้น 7 เมตร เป็นต้นเบาบับที่มีขนาดสูงใหญ่ที่สุดในโลก

ผมมีโอกาสไปลูบๆ คลำๆอยู่พักนึงก็ยังไม่เห็นเลขเด็ดอะไรปรากฏออกมาเลยจะขอจบการผจญภัยตามหาเบาบับยักษ์แต่เพียงเท่านี้...เพื่อนๆมีสิ่งใดนำเสนอ พูดคุย แซว กัด..เอ้ย ชม ก็เชิญได้เลยนะครับ ผมรอคุยด้วยอยู่ ว่าแต่ขอถามเพื่อนๆ กันก่อนว่าเบื่อมาดากัสการ์หรือยัง ถ้ายัง..ผมมีอีกทริบ ในตอน พาตะลุยมาดากัสการ์เพื่อไปชมแหล่งไม้โขดแดนเหนือ และขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ติดตามการนำเที่ยวของผมด้วยดีเสมอมาครับ

โดย Nature Explorer [9 ต.ค. 2548 , 19:30:23 น.]



*******************************************

เด็ดไปเลยครับพี่ลุ้นมาตลอดทางเลย เจ๋งไปหมดทุกภาพแต่ภาพที่พี่กอดCyphostemma นี่เจ๋งสุดไม่รู้คิดได้ไง

โดย Leonet [9 ต.ค. 2548 , 22:53:32 น.]


ไม่เบื่อมาดา....เลยพี่ จัดมาเลย จะรอชมครับ
 โดย mr.baso [10 ต.ค. 2548 , 00:24:41 น.]


จาเอา ๆๆๆๆๆๆ
 โดย 0bnyne O [10 ต.ค. 2548 , 00:38:40 น.]


จาเอาหนุ่มBlack Boyในภาพข้อความที่66เหรอ 0bnyne O ฮิฮิ รสนิยมใช้ได้นะ 555
 โดย caudexhunter [10 ต.ค. 2548 , 02:13:23 น.]


อยากดูไม้โขดทางเหนือของมาดาร์กาสการ์อีกครับคุณป้อง ขอบคุณมากครับ
 โดย tootoilet [10 ต.ค. 2548 , 22:13:54 น.]


ยอดเยี่ยมครับคุณป้อง มีมานำเสนอให้ชมอีกก็อยากชมอีกครับ ไม้โขดผมไม่ค่อยรู้จักเท่าไรนักแต่ตอนนี้ชักจะชอบขึ้นมาแล้ว จะรอชมต่อนะครับ
 โดย issy [11 ต.ค. 2548 , 00:19:01 น.]


อยากดูอีกครับ อ่านแล้วเพลินดีชอบมากเลยพี่ป้อง
 โดย BEE [11 ต.ค. 2548 , 07:04:18 น.]

ขอบคุณเพื่อนๆมากเลยครับ ที่ให้ความสนใจการไปผจญภัยในมาดากัสการ์ของผม ตอนนี้ผมกำลังเตรียมเรื่องและภาพที่จะนำเสนอ โปรดติดตามในเร็วๆ นี้นะครับ..แล้วก็ขอเรียกน้ำลายผู้พิสมัยไม้โขดกันก่อนด้วยภาพนี้ครับ..
 โดย Nature Explorer [11 ต.ค. 2548 , 13:34:40 น.]


โอ้ว! เจ๋งมากเลยครับหัวนี้ แต่เอ๊ ! พี่ ! นั่นถือชแลงรึเปล่า อุปกรณ์มาตรฐานเลยนะนั่นน่ะเตรียมพร้อมดีจัง
ฮิฮิ ล้อเล่นนะครับ รู้แหละว่าเป็นไม้ค้ำที่พี่ชอบใช้เวลาเดินป่า นักอนุรักษ์กับชแลงไปด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว..
 โดย caudexhunter [11 ต.ค. 2548 , 22:54:28 น.]



ดูเหมือนมันแกวเลยเนอะ
พี่ป้องกำลังจะเล่นปิดตาตีแตงโมต่างหาก คุณคอเด็ก
 โดย 0bnyne O [12 ต.ค. 2548 , 09:28:55 น.]




มาตามคำเรียกร้องแล้วครับ..ขอเชิญเพื่อนๆไปเปิดชมได้ที่กระทู้...ตะลุยมาดากัสการ์ ภาค3 ..ท่องแดนเหนือเพื่อตามหาป่าไม้โขด. .รับลองว่าน่าติดตามไม่แพ้ภาค1 และ 2 ครับ

ว่าแต่ คุณ Leonet เถอะ เห็นว่าไปเที่ยวป่าสองวันที่จังหวัดตราด เจอไม้โขดอะไรบ้างอย่าลืมมาอวดกันนะครับ...ยังไงเจอกันที่งานสังสรรค์บ้านคุณ Dorstenia Lover ตามที่นัดกันครับ

โดย Nature Explorer [13 ต.ค. 2548 , 17:45:42 น.]